คนจีนรุ่นใหม่ใช้ AI เพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น

ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงนักพัฒนารุ่นใหม่ก็ใช้ AI เพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น

เติมปีกแห่งปัญญาสู่ความร่วมมือด้านการวิจัย

เจี่ยง ชิงซง ผู้ช่วยนักวิจัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ต้องทำงานร่วมกับผู้ช่วยวิจัยเกือบทุกวัน เขาจะป้อนคำถามหรือคำสำคัญแล้ว AI ของเขา WaterScholar (ผู้ช่วยวิจัยวรรณกรรมวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมทางน้ำ) จะทำงานอย่างรวดเร็วและสรุปผลอันล้ำสมัยให้เขาได้อย่างแม่นยำ

เจี่ยง ชิงซงทำงานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการมลพิษทางน้ำมาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว สาขาวิจัยนี้กว้างขวางและซับซ้อน และเกี่ยวข้องกับการบูรณาการหลายสาขาวิชา และมีเอกสารที่เกี่ยวข้องมากกว่า 15 ล้านบทความและเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งล้านบทความทุกปี

ในปี 2566 ปัญญาประดิษฐ์โมเดลใหญ่เข้าสู่ปีแรกของการเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังจากความพยายามมาเป็นเวลานาน WaterScholar ที่"อ่าน" งานวิจัยที่คัดสรรแล้วกว่า 3 ล้านบทความจึงถือกำเนิดขึ้น

“มันเหมือนกับ ‘มนุษย์’ ที่มีความสามารถในการอ่าน คิด สรุป และแสดงออก” เจี่ยง ชิงซงกล่าวว่า “มันช่วยให้เราจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการคิดและสำรวจการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย”

ปล่อยให้ความฝันเบ่งบานกับปัญญาประดิษฐ์โมเดลใหญ่

สำหรับ เถียน เหวินโป๋ นักศึกษาปีที่ 4 คณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเว่ยหนานนอร์มอลในมณฑลส่านซี ความฝันด้านกีฬาของเขาที่ถูกขัดจังหวะได้กลายเป็นจริงอีกครั้งเพราะ AI

“ทรัพยากรการฝึกอบรมที่จำกัด การขาดคำแนะนำจากโค้ชมืออาชีพ หรือท่าทางการฝึกที่ไม่ถูกต้องซึ่งนำไปสู่การบาดเจ็บก่อนวัยอันควร...” เถียน เหวินโป๋ก็ประสบปัญหาเหล่านี้เช่นเดียวกับนักศึกษากีฬาทั่วไป เขาชื่นชอบกีฬามาตั้งแต่เด็กและเคยเป็นนักกรีฑาของโรงเรียนในช่วงมัธยมต้น แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดบางประการ เขาจึงไม่สามารถประกอบอาชีพนักกีฬาได้ในที่สุด

จะทำอย่างไรให้เยาวชนที่มีศักยภาพเข้าใกล้ความฝันด้านกีฬาของพวกเขามากขึ้น ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย เถียน เหวินโป๋ ผู้เรียนเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ ได้เข้าร่วมโครงการวิจัยด้านกีฬา และได้เรียนรู้ว่าทีมชาติจีนกำลังใช้เทคโนโลยี AI เพื่อวิเคราะห์จุดอ่อนทางเทคนิคของนักกีฬาและจัดทำแผนการฝึกอบรมที่ตรงเป้าหมาย จากนี้เขาจึงเกิดแนวคิดที่จะสร้าง "โค้ชส่วนตัว AI" ที่สะดวกสำหรับการฝึกอบรมทั่วไป เพื่อให้ผู้คนจำนวนมากสามารถรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญได้ทุกเวลา

หลังจากเปิดตัวซอฟต์แวร์ "โค้ชส่วนตัว AI" แล้ว ก็ได้รับความสนใจและคำชมมากมายจากวงการกีฬา มีนักกีฬาที่ใช้ "โค้ชส่วนตัว AI" เพื่อฝึกฝนปรับปรุงอย่างมีเป้าหมายเป็นเวลา 1 สัปดาห์และสามารถทำเวลาในการวิ่ง 100 เมตรจากเดิม 13.7 วินาทีลดลงเหลือเพียง12 วินาที

อีกด้านหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์โมเดลใหญ่ ยังเชื่อมต่อกับความฝันของผู้พิการทางสายตาที่อยากจะ "มองเห็น" โลก เพื่อที่จะทำ "ให้ดวงตาสว่าง" โจว เจียงหนาน ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีให้ดวงตาสว่างเซินเจิ้น จำกัด ได้สัมผัสประสบการณ์ความมืดร่วมกับผู้พิการทางสายตา

ในปี 2560 โจว เจียงหนาน ผู้ประกอบการรุ่นยุค 90 นี้ได้ใช้ชีวิตกิน นอน และเดินทางร่วมกับเพื่อนผู้พิการทางสายตาจำนวน 7 คน เป็นเวลากว่า 100 วัน โดยพยายามทำความเข้าใจให้มากขึ้นถึงอุปสรรคที่เพื่อนผู้พิการทางสายตาต้องเผชิญในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวัน

หนึ่งปีต่อมา เขาได้ชวนโจว เซิ่งหนาน เพื่อนสมัยประถม ฝาน หงเทา เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัย และหวัง เมิ่งฉี วิศวกรตาบอด และคนอื่น ๆ  ร่วมกันก่อตั้งทีมสตาร์ทอัพ โจว เจียงหนานกล่าวว่า "ตาสว่าง" แอพเพล็ตและแอปที่ทีมงานคิดค้นสามารถถ่ายภาพและระบุตำแหน่งของผู้พิการทางสายตาอยู่ รวมถึงอธิบายสภาพแวดล้อมโดยรอบได้ “ราวกับได้ใช้ตาดูโลกจริงๆ” โจว เจียงหนานกล่าว

“เสียงในแอปนั้นบอกเราว่านี่คือยาอะไร ต้องกินยากี่เม็ด และรักษาโรคอะไรได้บ้าง” สวี้สวี้ ผู้ใช้ "ตาสว่าง" ได้แบ่งปันประสบการณ์ของเธอกับโจว เจียงหนาน ในมุมมองของเธอ การที่โทรศัพท์สามารถ “พูดได้” “มันเป็นเรื่องสำคัญมาก”

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ China Youth Daily

โกว เสี่ยวหรง/แปล

จารุวรรณ อุดมทรัพย์/พิสูจน์อักษร