มูลค่าการค้าชายแดนของยูนนานเพิ่มขึ้น 8.1% ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี

กรมศุลกากรคุนหมิงระบุว่า ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้ารวมของยูนนานอยู่ที่ 201,860 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยแบ่งเป็นมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 69,410 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 132,450 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การค้าระหว่างยูนนานกับอาเซียนเติบโตแข็งแกร่ง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการลงนามในพิธีสารฉบับปรับปรุงของเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน 3.0 อย่างเป็นทางการ ซึ่งช่วยสร้างระบบตลาดและห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาคที่บูรณาการมากขึ้น อาเซียนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของยูนนาน โดยในช่วงสามไตรมาสแรก มูลค่าการนำเข้าและส่งออกของยูนนานกับอาเซียนอยู่ที่ 96,440 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 14.4% คิดเป็น 47.8% ของมูลค่าการนำเข้าและส่งออกทั้งหมดของยูนนาน

อัตราการเติบโตของการนำเข้าและการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องในแต่ละไตรมาส ในไตรมาสแรกอยู่ที่ 56,750 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2%ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 71,330 ล้านหยวน และไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 73,780 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 2% 5.3% และ 16.4% ตามลำดับ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาที่มั่นคงและเป็นไปในเชิงบวก

การส่งออกสินค้าเกษตรยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออก "สินค้าโภคภัณฑ์ใหม่สามรายการ" เร่งตัวขึ้น ในช่วงสามไตรมาสแรก ยูนนานส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่า 14,740 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6.6% คิดเป็น 21.2% ของการส่งออกทั้งหมดของยูนนาน ครองอันดับหนึ่งในภูมิภาคตอนกลางและตะวันตกของประเทศ ในบรรดาการส่งออกดังกล่าว การส่งออกไม้ตัดดอกคิดเป็นมูลค่า 870 ล้านหยวน กาแฟและผลิตภัณฑ์จากกาแฟ 790 ล้านหยวน ซึ่งทั้งสองประเทศครองอันดับหนึ่งของประเทศ ส่วนการส่งออก "สินค้าโภคภัณฑ์ใหม่สามรายการ" ได้แก่ แบตเตอรี่ลิเธียม ผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ไฟฟ้า มีมูลค่า 1,810 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 54.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยมีอัตราการเติบโตเร่งขึ้น 12.2 จุดเปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงแปดเดือนแรกของปี

มูลค่านำเข้าทำสถิติสูงสุดในช่วงเวลาเดียวกัน โดยในช่วงสามไตรมาสแรก ยูนนานนำเข้า 132,450 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12% โดยมีการนำเข้าทะลุ 130,000 ล้านหยวนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในจำนวนนี้ วัตถุดิบสำหรับการผลิต เช่น แร่ทองแดง แร่โลหะมีค่า และยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ ช่วยผลักดันการนำเข้าเพิ่มขึ้น 12.8 จุดเปอร์เซ็นต์ ขณะที่สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ผลไม้และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ช่วยเพิ่มการนำเข้าอีก 4.2 จุดเปอร์เซ็นต์