อวี เจี้ยนหัว และอวี จงหัวสองพ่อลูกผู้พิทักษ์ป่าจากตำบลถาเฉิง แคว้นตี๋ชิง มณฑลยูนนาน เฝ้าดูแลลิงจมูกเชิดขนทองยูนนานมานานกว่า 30 ปี “หวังว่าจะมีคนรุ่นใหม่มารับไม้ต่อในการปกป้องพวกมัน”

เดิมที อวี เจี้ยนหัว เป็นพรานที่เก่งกาจที่สุดในตำบลถาเฉิง อำเภอปกครองตนเองชนชาติลีซอเว่ยซี แคว้นปกครองตนเองชนชาติทิเบตตี๋ชิง มณฑลยูนนาน เมื่ออายุ 45 ปี เขาตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตกลายเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าบนภูเขาหิมะไป๋หม่า ภายหลังลูกชายอย่าง อวี จงหัวที่เคยออกไปทำงานต่างถิ่นก็กลับคืนสู่ขุนเขา ร่วมกับบิดาออกเดินป่าสองพ่อลูกได้ร่วมกันปกป้องลิงจมูกเชิดขนทองยูนนานอย่างเงียบ ๆ มานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่การติดตามค้นหาและปกป้องฝูงลิงตลอดเผยแพร่ให้ผู้คนเข้าใจและเห็นคุณค่าของมัน

การค้นหาที่ใช้เวลาเกือบหนึ่งปี แต่กว่าจะได้รับการยอมรับต้องรอถึง 10 ปี
เพื่อเร่งปกป้องลิงจมูกเชิดขนทองยูนนาน รัฐบาลยูนนานจึงได้จัดตั้งเขตอนุรักษ์ธรรมชาติภูเขาหิมะไป๋หม่าขึ้นในปี พ.ศ. 2526 อวี เจี้ยนหัวได้รับมอบหมายจากสำนักงานป่าไม้ประจำมณฑล และภารกิจแรกของเขาคือการตามหาลิงชนิดนี้
“ผมเริ่มค้นหาตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2538 แต่กว่าจะพบฝูงลิงในป่า ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงหนึ่งกิโลเมตร ก็ต้องรอจนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2539” อวี เจี้ยนหัวเล่า
อย่างไรก็ตาม การจะเข้าใจลิงจมูกเชิดขนทองยูนนานอย่างแท้จริง ระยะทางเพียงหนึ่งหรือสองกิโลเมตรก็ยังถือว่าไกลเกินไป “ผมไม่รู้เลยว่ามีลิงอยู่กี่ตัว พวกมันทำอะไร หรือกินอะไร” อวี เจี้ยนหัวใช้เวลาอีกเกือบ 9 ปี ค่อย ๆ ติดตามเข้าใกล้ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2548 ในที่สุด อวี เจี้ยนหัว จึงได้รับการยอมรับจากฝูงลิง ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับฝูงลิงลดลงจากกว่า 1,000 เมตร เหลือเพียงสิบเมตร

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา ลิงจมูกเชิดขนทองจำนวนมากเริ่มย้ายถิ่นมาตั้งรกรากที่หุบเขาเซียงกู่ชิ่ง ปูทางไปสู่การวิจัยและการศึกษาเกี่ยวกับลิงเหล่านี้ต่อไป
เพื่อปกป้องลิงจมูกเชิดขนทองยูนนาน อวี เจี้ยนหัวก็ได้เกลี้ยกล่อมลูกชายของเขา อวี จงหัวให้เข้าร่วมโครงการอนุรักษ์ภูเขาหิมะไป๋หม่า
งานอนุรักษ์ของอวี จงหัวแตกต่างจากบิดาของเขาตรงที่ขยายขอบเขตไปถึงการติดตามประชากรลิงจมูกเชิดยูนนาน การตรวจสอบความหลากหลายทางชีวภาพ และการจัดการร่วมชุมชน ในปี พ.ศ. 2556 เขาเดินทางไปที่ศูนย์จัดการถาเฉิงของเขตอนุรักษ์ธรรมชาติภูเขาหิมะไป๋หม่า และได้นำประสบการณ์และความรู้ของบิดามาใช้ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 16 นายในขณะนั้น
จากการสังเกตการณ์อย่างยาวนานของอวี จงหัวและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้ให้ความช่วยเหลืออย่างมากต่อความพยายามในการอนุรักษ์ทางวิทยาศาสตร์ คำถามที่นักวิจัยสงสัยมานานได้รับการไขกระจ่างแล้ว ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ลิงจมูกเชิดยูนนานในฝูงเซียงกู่ชิ่งมีราชาลิงหลายตัวติดต่อกัน ลิงเหล่านี้ป้องกันการผสมพันธุ์ในสกุลเดียวกันได้อย่างไร? ลิงตัวผู้เมื่ออายุ 3 ปีจะถูกพ่อไล่ออกจากฝูง ส่วนลิงตัวเมียอายุ 6 - 7 ปีจะถูกแม่ไล่ไปยังครอบครัวอื่น เพื่อป้องกันการผสมพันธุ์ภายในเครือญาติ เมื่อลิงมีอายุมากขึ้น ราชาลิงจะเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ ทำให้ประชากรลิงมีสุขภาพแข็งแรง
แม้ว่าฝูงลิงจมูกเชิดขนทองเซียงกู่ชิ่งในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาจะมีลิงเกิดใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 150 ตัว แต่จำนวนประชากรลิงก็ยังคงถูกควบคุมอยู่ที่ 50 - 70 ตัว “หากมีลิงมากกว่า 70 ตัว จำเป็นต้องแบ่งฝูงภายใต้การชี้นำของมนุษย์” อวี จงหัวกล่าว เพื่อสังเกตว่าฝูงลิงสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ามักจะใช้เวลาบนภูเขาทั้งวัน เพื่อบันทึกการปรับตัวของลิงแต่ละตัว ปัจจุบัน ลิงจมูกเชิดยูนนานกว่า 80 ตัวได้ย้ายถิ่นฐานจากประชากรเดิมไปอยู่ร่วมกับลิงจมูกเชิดขนทองยูนนาน จากสถิติแสดงให้เห็นว่าประชากรลิงจมูกเชิดขนทองยูนนานในประเทศจีนเพิ่มขึ้นจาก 1,000 - 1,500 ตัวในปี พ.ศ. 2539 เป็นเกือบ 4,000 ตัวในปัจจุบัน
ช่าย เมิ่ง/แปล
จารุวรรณ อุดมทรัพย์/พิสูจน์อักษร