จากกรุงเทพฯ สู่คุนหมิง พลังแห่งความก้าวหน้าที่สะท้อนข้ามวัฒนธรรม

แหล่งที่มา:YICC   |    2025-08-22 16:32:59

“ความสามัคคี” คืออะไร? “ความงาม” คืออะไร? พลังแห่งความก้าวหน้า ควรมุ่งไปสู่ทิศทางใด?

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา กิจกรรมแบ่งปันเรื่องราว “พลังที่มุ่งสู่ความก้าวหน้า และความผูกพันดุจดั่งครอบครัวของฉัน” จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนครคุนหมิง ตัวแทน “ค่ายทูตเยาวชนไทย - จีน” จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล ประเทศไทย รวมถึงมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งนครคุนหมิง มหาวิทยาลัยยูนนาน มหาวิทยาลัยยูนนานนอร์มอล และอีกหลายสถาบันอุดมศึกษาของจีน รวมทั้งสิ้นจำนวน 55 คน ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างอบอุ่นและจริงใจในประเด็นเกี่ยวกับ “ความสามัคคีและความงาม”

“ความสามัคคี” คืออะไร? “ความสามัคคี” คือ การอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียว และยังหมายถึงความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันด้วย

นะดา สะตาปอ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประเทศไทย เล่าประสบการณ์จริงที่สะท้อนถึงมิติอีกด้านของ “ความสามัคคี” ได้อย่างมีชีวิตชีวา นั่นคือ ความเข้าใจและการยอมรับ

เธอยอมรับว่าในตอนแรกเธอรู้สึกตกใจมากกับพฤติกรรมของเพื่อนร่วมห้องชาวจีนที่ “ไม่ถอดรองเท้าก่อนเข้าห้อง” ซึ่งแตกต่างจากวัฒนธรรมของคนไทยที่นิยมเดินเท้าเปล่าในบ้าน อย่างไรก็ตาม ด้วยการสื่อสารอย่างเปิดใจทำให้เธอเข้าใจแนวคิดเรื่องสุขภาพที่อยู่เบื้องหลังความเคยชินเช่นนี้ นั่นคือ “การป้องกันความเย็นจากพื้นเข้าสู่ร่างกาย” “ฉันตระหนักว่า ‘ความสามัคคี’ หรือในที่นี่คือ ‘ความกลมกลืน’ มิได้หมายถึงการขจัดความแตกต่างทั้งหมด แต่คือการก้าวเข้าไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว เพื่อเปลี่ยนความต่างให้กลายเป็นบทสนทนาแห่งความจริงใจและความไว้วางใจ”

ด้านนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์คุนหมิง เถา เหวิน ชี้ให้เห็นจากมุมมองของ “ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ” ว่า “ความสามัคคี” ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่ยังแฝงอยู่ในความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและกิจกรรมของคนรุ่นใหม่

ขณะที่หลิว เหยียนชิ่ง โค้ชมวยไทย อธิบายความหมายลึกซึ้งของ “ความสามัคคี” ด้วยพลังทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน ในมุมมองของเขา “ความสามัคคีหรือความกลมเกลียว” ของมวยไทย ไม่เพียงเป็นการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของวัฒนธรรมที่แตกต่าง และอยู่ที่การปรับสมดุลระหว่างมนุษย์กับตัวเองและโลกใบนี้

“ความงาม” คืออะไร? “ความงาม” คือ ความงามของวัฒนธรรม และยังเป็นความงามของการสืบสาน

สรัญญา แสงพร นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเทศไทย บอกเล่าถึงความงดงามของวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศว่า “ตลาดน้อย ย่านชาวจีนในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นพยานถึงการตั้งรกรากของชาวจีนมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งช่วยหล่อหลอมกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นมหานครที่ผสมผสานความหลากหลายทางวัฒนธรรม ขณะที่หมู่บ้านชนชาติไตในสิบสองพันนา ประเทศจีน ก็เปี่ยมด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีและภูมิทัศน์ทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหล่อหลอมเสน่ห์ทางวัฒนธรรมอันหาที่เปรียบมิได้...”

สำหรับเธอแล้ว สิ่งเหล่านี้คือมรดกอันล้ำค่าที่บรรพบุรุษฝากไว้ให้แก่คนรุ่นใหม่ของทั้งสองประเทศ และขอเชิญชวนให้เยาวชนรุ่นใหม่ร่วมกันค้นหา รักษา และสืบสานความงดงามเหล่านี้

ในอีกมุมหนึ่ง เฉิน ย่าผิง นักแสดงชั้นนำของโรงละครงิ้วยูนนาน ได้ใช้การร่ายรำอันอ่อนช้อยของแขนเสื้อ ถ่ายทอด “ความงดงาม” บนเวทีได้อย่างมีชีวิตชีวา “สะพานทางวัฒนธรรมเป็นพลังสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างประเทศ และระหว่างผู้คน” เธอกล่าว

แล้วพลังแห่งความก้าวหน้านี้ ควรมุ่งไปสู่ทิศทางใด? คำตอบซ่อนอยู่ในคำพูดของเผิง เวย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยยูนนาน “การแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนจีน - ไทย คือ พลังสำคัญในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ”

คำตอบยังซ่อนอยู่ในความฝันของคนหนุ่มสาว บางคนอยากปกป้องสิ่งแวดล้อมของโลก บางคนใฝ่ฝันที่จะเรียนรู้ภาษาต่างประเทศให้มากขึ้น บางคนเพียงแค่อยากมีเพื่อนที่รู้ใจเพิ่มอีกสักคนสองคน ความปรารถนาเหล่านี้ ต่างมุ่งไปยังจุดเดียวกัน นั่นคือ การรับฟังซึ่งกันและกัน การเคารพความแตกต่าง การสร้างสายสัมพันธ์ และการสร้างอนาคตที่งดงามและมีความสามัคคี

ระหว่างวันที่ 3 ถึง 25 สิงหาคม 2568 กิจกรรม “ค่ายทูตเยาวชนไทย - จีน” ได้จัดขึ้นต่อเนื่องใน 5 เมืองของสองประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ สงขลา เชียงราย คุนหมิง และปักกิ่ง ค่ายนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมความเข้าใจและมิตรภาพระหว่างเยาวชนจีน - ไทย ผ่านการสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรม การทัศนศึกษา และการแลกเปลี่ยนเชิงลึก เปิดโอกาสให้เยาชนได้เรียนรู้ถึงความสำเร็จในการพัฒนาประเทศที่ทันสมัยของจีน บ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์สากล อันจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาคต่อไป

บทสนทนาข้ามพรมแดนที่จริงใจ ความเข้าใจอันลึกซึ้งต่อความแตกต่างทางวัฒนธรรม และความฝันอันงดงามต่ออนาคตร่วมกัน ล้วนหลอมรวมเป็นพลังแห่งความก้าวหน้าที่แท้จริงและเปล่งประกายในกิจกรรม “ค่ายทูตเยาวชนไทย - จีน” ครั้งนี้
 

จากกรุงเทพฯ สู่คุนหมิง พลังแห่งความก้าวหน้าที่สะท้อนข้ามวัฒนธรรม