ร้านหนังสือที่ไม่เคยปิด

เมื่อวันที่12 กรกฎาคม2557 ร้านหนังสือ1200bookshop ซึ่งตั้งอยู่บนถนนถี่อวี้ตงในกว่างโจวได้เปิดให้บริการแก่ผู้คนอย่างเป็นทางการร้านหนังสือแห่งนี้เป็นร้านหนังสือแห่งแรกในกว่างโจวที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงหลิวเอ้อสี่ผู้ก่อตั้งยังจําได้ถึงคืนของวันที่เริ่มเปิดร้านเป็นครั้งแรกคืนนั้นร้านคราคร่ำไปด้วยผู้คนทุกๆคนต่างตั้งตารอเวลาเช้ามืดที่จะมาถึงในเวลานั้นผู้คนต่างอยากรู้อยากเห็นเป็นที่สุดว่าร้านหนังสือที่ยังคงเปิดตอนเช้ามืดจะเป็นอย่างไรและใครกันจะอ่านหนังสือในร้านหนังสือที่เปิดช่วงเช้ามืด

ร้านหนังสือแบบมีหน้าร้านกำลังประสบปัญหาจากการโจมตีของแพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซการเปิดร้านหนังสือทั้งคืนตลอด24 ชั่วโมงดูเหมือนศิลปะแสดงสดรูปแบบหนึ่งเสียมากกว่า

ผู้คนต้องการร้านหนังสือที่เปิดตลอด24 ชั่วโมงจริงหรือ“การไปร้านหนังสือเพื่ออ่านหนังสือกลางดึกนั้นจริงๆ แล้วเป็นความต้องการเทียม” หลิวเอ้อสี่พูดอย่างตรงไปตรงมาแต่เขาก็เสริมว่า“แต่ความหวังว่าจะหาที่พักกายในเมืองช่วงกลางดึกและเช้ามืดเป็นความต้องการที่จำเป็นแม้จะอยู่คนเดียวก็ไม่โดนรบกวนและนี่ก็คือความหมายของร้านหนังสือที่เปิด24 ชั่วโมงเช่นกันร้านนี้ช่วยอำนวยให้ผู้คนมีสถานที่พักพิงในยามค่ำคืนอันเปลี่ยวเหงาได้โดยที่ไม่ก่อภาระมากจนเกินไป”

ภายในร้านหนังสือเวลาตีสองกว่าๆบางคนนอนฟุบกับโต๊ะบางคนนอนพิงมุมกำแพงและบางคนก็นั่งอยู่บนขั้นบันไดคู่สามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ในกว่างโจวมักมาอ่านหนังสือที่นี่ภรรยานอนไม่หลับจะหลับได้เฉพาะแต่เมื่ออยู่ในร้านหนังสือเท่านั้นสามีคอยอยู่เคียงข้างและอ่านหนังสือประวัติศาสตร์โบราณเรื่อง“จือจื้อทงเจี้ยน” อย่างเงียบๆตลอดทั้งคืนสำหรับพวกเขาแล้วบางทีร้านหนังสือที่เปิดตลอด24 ชั่วโมงอาจให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน

สำหรับคนยุคใหม่รูปแบบ“การไปเดินร้านหนังสือแบบมีหน้าร้านก่อนเมื่อพบหนังสือที่ชอบก็ถ่ายรูปแล้วกลับมาซื้อออนไลน์ที่บ้าน” กลายเป็นกลยุทธ์การประหยัดเงินที่พบอย่างแพร่หลาย  แล้วทำไมถึงยังต้องไปร้านหนังสือล่ะบางทีเราอาจเปลี่ยนมุมมองในการมองปัญหา: ปัจจุบันธุรกิจดนตรีทั่วโลกกำลังกลับไปสู่สภาพที่ขายการแสดงสดผู้ประกอบการไม่ได้พึ่งพารายได้จากการขายแผ่นเสียงอีกต่อไปเหตุใดผู้คนจำนวนมากจึงเต็มใจที่จะทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อไปฟังคอนเสิร์ตหนึ่งในเหตุผลคือเพื่อที่จะได้สัมผัสบรรยากาศจริงทำนองเดียวกันร้านหนังสือไม่ได้เป็นเพียงที่สำหรับซื้อและค้นหาหนังสือเท่านั้นแต่ให้บรรยากาศของการอ่านหนังสือในสถานที่นั้นจริงๆการไปร้านหนังสืออาจเป็นไปเพื่อเแสวงหาประสบการณ์การอ่านรูปแบบหนึ่ง

จากที่เริ่มต้นแนวคิดมาจาก“ร้านหนังสือ+X” ปัจจุบันหลิวเอ้อสี่ยังคงแสวงหาวิธีใหม่ๆในการประกอบกิจการร้านหนังสือเขาเปิดร้านหนังสือชื่อ1200book&bed ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดของ1200bookshop ที่สวนสาธารณะทะเลสาบลี่วานหากจะอธิบายให้ตรงจุดยิ่งขึ้นแล้วก็ควรที่จะพูดว่าร้านหนังสือรูปแบบผสมผสานที่มีขนาด1,100 ตารางเมตรแห่งนี้เป็น“ร้านหนังสือเพื่อการท่องเที่ยวที่เปิด24 ชั่วโมง”

ที่นี่สามารถจัดหาที่นอนที่มีเฉพาะเตียงนอนได้ในราคาที่ต่ำสุดเพียง44 หยวนต่อคืนส่วนแคปซูลเตียงคู่ก็ราคาไม่เกิน100 หยวนหลิวเอ้อสี่จัดให้มีที่นอนแคปซูลเดี่ยวคั่นกลางระหว่างชั้นหนังสือซึ่งก็เหมือนกับการฝังโรงแรมแคปซูลไว้ในร้านหนังสือนั่นเองแต่ละห้องออกแบบให้มีผ้าม่านดังนั้นคุณเพียงแค่มีสมาธิกับการอ่านการคิดและการนอนหลับเท่านั้นก็พอและก็นี่เป็นประเภทที่นอนแคปซูลขนาดสำหรับคนเดียวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นที่นอนซึ่งนอนอยู่บนชั้นหนังสือส่วน“ห้องหนังสือเสื่อทาทามิ” เป็นห้องพักแบบ“หรูหรา” ของร้านราคาอยู่ที่คืนละ2 - 300 หยวนเท่านั้น

แม้ว่าจะไม่มีฟูกและหมอนนุ่มๆดังเช่นโรงแรมแบบดั้งเดิมและสภาพที่พักเมื่อเทียบกับโรงแรมหลายๆแห่งแล้วก็มีความแตกต่างเป็นอย่างมากแต่ลูกค้าที่มาพักสามารถอาศัยอยู่ในร้านหนังสือได้จริงและประสบการณ์ดื่มด่ำกับการอ่านตลอด24 ชั่วโมงก็เกิดขึ้นได้จริงในเวลา4 ทุ่มของทุกคืนหลังจากร้านหนังสือปิดจะมีเพียงลูกค้าที่จะพักอยู่ที่นี่เท่านั้นที่สามารถอยู่ในร้านและอ่านหนังสืออย่างสบายใจได้ไม่ว่าจะอ่านถึงกี่โมงก็ตามเมื่อรู้สึกเหนื่อยก็เอาหนังสือมาหนุนหัวนอนได้นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากโรงแรมที่มีธีม(Theme Hotel) โดยทั่วไป

หลิวเอ้อสี่เล่าว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในร้านหนังสือนั้นบางคนเป็นนักเดินทางแบกเป้ที่เดินทางมาพักที่เมืองนี้ระยะสั้นๆและยังมีพวกแรงงานรับจ้างที่ใช้ชีวิตในเมืองนี้อยู่แล้วเพราะร้านหนังสือนี้นี่เองจึงทำให้พวกเขาตัดสินใจเช่าระยะยาวสำหรับพื้นที่สาธารณะในร้านนั้นจะมีการจัดงานร่วมกันอ่านหนังสือและงานฉายภาพยนตร์เป็นระยะๆทุกคนสามารถพบปะรู้จักเพื่อนฝูงที่ชื่นชอบหนังสือเหมือนกันได้ที่นี่

เมื่อหวนนึกถึงความตั้งใจเดิมของการเปิดร้านหนังสือ24 ชั่วโมงหลิวเอ้อสี่กล่าวว่า“ร้านหนังสือมีพลังเมื่อคนเดินเข้าไปในร้านหนังสือก็จะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเงียบสงบหลังจากนั้นจะได้รับการเยียวยาบางอย่างหวังว่าร้านหนังสือจะถ่ายทอดรสสัมผัสแห่งความเป็นมนุษย์ให้ได้และหวังว่าสิ่งเลวร้ายจากภายนอกที่เจอมาจะบรรเทาลงได้ที่นี่”