จีน - ไทย “เชื่อมโยงกันด้วยสายเลือด” ในสายพระเนตรของเจ้าฟ้าสิรินธร

2024-08-01 17:13:49

เมื่อวันที่6 เมษายนพ.ศ. 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีทูตการแลกเปลี่ยนจีน- ไทยผู้ได้รับการทูลเกล้าฯถวาย“เหรียญมิตรภาพ” เสด็จเยือนมหาวิทยาลัยปักกิ่งอีกครั้งซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าทรงเคยศึกษาที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งตั้งแต่วันที่14 กุมภาพันธ์ถึงวันที่15 มีนาคมพ.ศ. 2544 พระองค์ทรงสนพระทัยในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมและสังคมจีนอย่างลึกซึ้งนับแต่นั้นมาพระองค์เสด็จเยือนมหาวิทยาลัยปักกิ่งหลายครั้งทรงสนทนาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์และนักศึกษาบริจาคทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยปักกิ่งยังได้อัญเชิญพระนามาภิไธยของพระองค์จัดตั้ง“ศูนย์แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและวัฒนธรรมสิรินธรมหาวิทยาลัยปักกิ่ง” อันเป็นการเทิดพระเกียรติที่พระองค์ทรงสร้างคุณูปการต่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน- ไทย

ในระหว่างการเสด็จเยือนประเทศจีนสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารียังได้เสด็จเยือนสถานที่อื่นๆเช่นโรงเรียนประถมศึกษาสิรินธรซึ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษาในเมืองเหมียนหยางมณฑลเสฉวนที่สร้างขึ้นด้วยทุนทรัพย์ส่วนพระองค์และทรงใช้พู่กันจีนเขียนข้อความอักษรจีนซึ่งมีความหมายว่า“ร่วมกันมุ่งสู่อนาคต” กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการให้ความสำคัญของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าที่ทรงมีต่อความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนและไทยเท่านั้นหากแต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกอันลึกซึ้งต่อวัฒนธรรมและการศึกษาของจีนอีกด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าเคยตรัสไว้ในการประทานให้สัมภาษณ์ว่า“ประเทศจีนและประเทศไทยควรเป็นเพื่อนกันคนไทยจำนวนมากมีบรรพบุรุษเป็นชาวจีนพวกเขาต้องการเรียนรู้เข้าใจจีนมากขึ้น” สิ่งนี้ทำให้ข้าพเจ้าอดไม่ได้ที่นึกถึงเมื่อครั้งที่ได้ลงสำรวจภาคสนามที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงในประเทศไทย

ในช่วงฤดูร้อนของปีพ.ศ. 2558 คณะวิจัยวัฒนธรรมภาคสนามของเรามาที่อำเภอเชียงคานเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตำนานพื้นบ้านในเวลานั้นเรามาที่หมู่บ้านชาติพันธุ์ไตลื้อแห่งหนึ่งเดิมทีพวกเขาอาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขงในอาณาเขตประเทศลาวเมื่อประมาณร้อยปีก่อนบรรพบุรุษของพวกเขาจึงได้ข้ามแม่น้ำมายังฝั่งประเทศไทยนี้เมื่อเราสนทนากับพวกเขาเกี่ยวกับความเชื่อโบราณและการถ่ายทอดแบบมุขปาฐะของพวกเขาเรารู้สึกไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนักแต่แล้วผู้ใหญ่บ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านได้กล่าวแนะนำถึงบรรพชนท่านหนึ่งที่พวกเขาเคารพบูชาอยู่ในวัดชาวบ้านสักการะเซ่นไหว้บรรพชนท่านนี้กับบุตรชายอีกสองคนเป็นประจำทุกปีในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมการที่บรรพชนท่านนี้ได้รับความเคารพนับถือเช่นนี้เป็นเพราะว่าท่านเคยนำพาพี่น้องชาติพันธุ์หลบหนีการสังหารจากศัตรูมายังสถานแห่งนี้ขณะที่พยายามปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องชาติพันธุ์แต่โชคร้ายท่านถูกยิงด้วยลูกธนูจนเสียชีวิตชาวบ้านต่างโศกเศร้าเสียใจยิ่งนักหลังจากขับไล่ศัตรูไปแล้วจึงได้บูชาท่านไว้ในศาลเจ้าพวกเราคิดว่าเรื่องราวคงจบลงที่ตรงนี้แต่พวกเขายังให้ข้อมูลสำคัญอีกชิ้นหนึ่งคือบรรพชนท่านนี้เป็นชาวจีนเรื่องนี้ทำให้เราประหลาดใจมากแม้ว่าชาวไตลื้อจะอพยพจากภาคใต้ประเทศจีนลงมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วและลงหลักปักฐานยังพื้นที่ต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่พวกเขายังมีความทรงจำที่ชัดเจนเกี่ยวกับบรรพชนชาวจีนอีกทั้งยังสร้างศาลไว้เป็นที่สักการะบูชาซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้ประสบพบมา

ในประวัติศาสตร์กลุ่มชาติพันธุ์บางกลุ่มในประเทศจีนได้อพยพเข้ามายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกับคนในท้องถิ่นแต่งงานกันสืบลูกสืบหลานต่อมาชาวจีนเหล่านี้อาศัยอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาหลายปีได้หลอมรวมเข้ากับสังคมท้องถิ่นกลายเป็นประชากรส่วนหนึ่งของประเทศไทยการดำรงอยู่ของพวกเขาไม่เพียงสร้างวัฒนธรรมอันหลากหลายให้กับประเทศไทยแต่ยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการสื่อสารระหว่างจีนและไทยอย่างมีนัยยะสำคัญอีกด้วยอาจกล่าวได้ว่าประชาชนจีนและไทยไม่เพียงมีความเกี่ยวโยงกันทางวัฒนธรรมเท่านั้นแต่ยังเชื่อมโยงกันทางสายเลือดอีกด้วยสิ่งที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าทรงเคยพระดำรัสไว้นั้นไม่เพียงแต่สอดคล้องกับสถานการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงแต่ยังแฝงด้วยความคาดหวังว่ามิตรภาพจีน- ไทยจะคงอยู่ตลอดไปในอนาคตการเรียนรู้ร่วมกันจะมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าทรงเป็น“ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีน” อย่างแท้จริงความรักที่พระองค์ทรงมีต่อประเทศจีนและมีความเข้าใจอันลึกซึ้งต่อความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมจีน- ไทยจึงเป็นการเพิ่มสีสันอันสดใสให้กับมิตรภาพระหว่างจีนและไทยอย่างไม่มีข้อสงสัยมิตรภาพระหว่างประชาชนสองประเทศมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีแนวคิดที่ว่า“จีนไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน” ได้หยั่งรากฝังลึกอยู่ในจิตใจของประชาชนทั้งสองประเทศมิตรภาพอันลึกซึ้งนี้ได้วางรากฐานที่มั่นคงสำหรับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในด้านต่างๆหลายปีมานี้ประเทศจีนและประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและวัฒนธรรมประเทศจีนได้กลายเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเป็นตลาดส่งออกหลักและแหล่งการลงทุนจากต่างประเทศสำหรับสินค้าเกษตรของไทยมาตลอดเป็นเวลาหลายปีขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในด้านเศรษฐกิจเกิดใหม่เช่นเศรษฐกิจดิจิทัลเศรษฐกิจสีเขียวกำลังได้รับแรงผลักดันและมีโอกาสขยับขยายในวงกว้างเช่นกัน   

นอกจากนี้การแลกเปลี่ยนและการเยือนในระดับสูงระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศได้เสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองและยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นนายเศรษฐาทวีสินนายกรัฐมนตรีไทยและผู้นำท่านอื่นๆเดินทางไปเยือนจีนหลายครั้งมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกกับผู้นำจีนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีและประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นข้อกังวลร่วมกันเพื่อส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างรอบด้านการแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างจีนและไทยไม่เพียงแต่สอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศเท่านั้นแต่ยังมีความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพของโลกอีกด้วยด้วยความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินไปในเชิงลึกและพัฒนาไปในด้านต่างๆจึงเชื่อมั่นว่าความสัมพันธ์จีน- ไทยจะนำไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า

จีน - ไทย “เชื่อมโยงกันด้วยสายเลือด” ในสายพระเนตรของเจ้าฟ้าสิรินธร