มังกรหยก ภาค 2 (คัดมาบางตอน)
กิมย้งชื่อจริง“จาเหลียงยง” เป็นนักเขียนนวนิยายกำลังภายจีนในร่วมสมัยตัวอย่างนวนิยายกำลังภายในชื่อดังของกิมย้งเช่น“มังกรหยกตอนจอมยุทธอินทรี” “มังกรหยก” “กระบี่ฟ้าดาบมังกร” สำหรับนวนิยายเรื่อง“มังกรหยก” บอกเล่าเรื่องราวในปลายราชวงศ์ซ่งใต้ความรักที่เหนือทางโลกระหว่างเอี้ยก้วยและเซียวเหล่งนึ่งหนังสือเล่มนี้ยังบรรยายถึงความคับแค้นภายในยุทธภพสลับกับความรู้สึกที่มีต่อชาติบ้านเมืองและพรรณนาถึงศิลปะการต่อสู้ได้อย่างงดงาม
มันเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิในเดือนยี่ณท่าน้ำข้ามฟากเฟิงหลิงบนฝั่งตอนเหนือของแม่น้ำฮวงโหอันพลุกพล่านวุ่นวายอึกทึกไปด้วยเสียงลาเสียงม้าแทรกด้วยเสียงผู้คนและเสียงรถม้าหลายวันมานี้อากาศเดี๋ยวหนาวเย็นเดี๋ยวอบอุ่นน้ำแข็งในแม่น้ำฮวงโหที่เริ่มละลายมาวันนี้มีลมเหนือพัดมาหิมะตกน้ำในแม่น้ำกลับจับตัวเป็นน้ำแข็งอีก
เรือโดยสารข้ามฟากไม่สามารถแล่นบนน้ำได้รถก็ไม่สามารถแล่นบนน้ำแข็งได้ผู้โดยสารจำนวนมากที่ต้องการข้ามฟากเพื่อลงใต้ต้องตกค้างอยู่ที่ท่าน้ำเฟิงหลิงไม่สามารถออกเดินทางได้ท่าน้ำเฟิงหลิงแม้ว่าจะมีโรงเตี๊ยมหลายแห่งแต่นักเดินทางจากทางเหนือหลั่งไหลมาไม่ขาดสายชั่วเวลาไม่ถึงครึ่งค่อนวันมีผู้เข้าพักเต็มหมดพ่อค้าวานิชที่มาทีหลังจึงไม่มีที่พัก
ท้องฟ้าเริ่มมืดแต่หิมะยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆทันใดนั้นได้ยินเสียงกีบม้าดังขึ้นม้าสามตัวควบมาอย่างรวดเร็วหยุดลงที่หน้าประตูโรงเตี๊ยม
เมื่อทุกคนมองไปที่แม่นางคนนี้ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายวาบอายุของเธอราวสามสิบปีเศษใบหน้าหมดจดงดงามแก้มแดงเปล่งปลั่งดั่งผลท้อสวมแจ็กเก็ตหนังผ้าต่วนสีไพลินเป็นชุดแต่งกายที่ค่อนข้างหรูหรามีราคาแม่หญิงคนนี้มีผู้ติดตามเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งทั้งคู่อยู่ในวัยราวสิบห้าสิบหกปีหนุ่มน้อยมีคิ้วดกตาโตท่วงท่าโผงผางเปิดเผยส่วนแม่สาวน้อยกลับใสซื่อสง่างาม
แม่หญิงผู้งดงามคนนี้คือก๊วยพู้สาวน้อยคนนั้นคือก๊วยเซียงน้องสาวของเธอส่วนหนุ่มน้อยนั้นคือก๊วยพั่วลู่
น้องชายฝาแฝดของก๊วยเซียง
ใบหน้าของก๊วยเซียงเปี่ยมไปด้วยความสุข... เธอหันไปกล่าวกับก๊วยพู้ว่า“ท่านพี่ในวัยเด็กของจอมยุทธ์เจ้าอินทรีเคยอาศัยอยู่ที่เกาะดอกท้อของเราจริงหรือเหตุใดข้าไม่เคยได้ยินท่านพ่อท่านแม่กล่าวถึง”
อันที่จริงแล้วเรื่องที่เอี้ยก้วยแขนหักเซียวเหล่งนึ่งถูกยาพิษทั้งหมดเกิดจากความมุทะลุของก๊วยพู้ทุกครั้งที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ก๊วยเจ๋งจะโกรธกริ้วมากดังนั้นคนในครอบครัวสกุลก๊วยจึงปิดปากไม่พูดถึงเรื่องนี้เด็ดขาดก๊วยเซียงกับก๊วยพั่วลู่จึงไม่เคยได้ยินคนเอ่ยถึงเรื่องราวของเอี้ยก้วย
ก๊วยเซียงกล่าวว่า“เมื่อเป็นเช่นนี้เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวของเราแต่เหตุใดจึงไม่มีการไปมาหาสู่กันเลยโอ้การชุมนุมใหญ่เหล่าจอมยุทธ์ที่เมืองเซียงหยางในวันที่15 เดือนสามนี้เขาคงต้องมาเข้าร่วมอย่างแน่นอน” ก๊วยพู้กล่าวว่า “คนคนนี้มีพฤติกรรมแปลกประหลาดนิสัยหยิ่งผยองยิ่งนักคงไม่มาร่วมงานหรอก”
ก๊วยเซียงรู้สึกผิดหวังเมื่อได้ยินพี่สาวบอกว่าเขาเคยถูกอุ้มตนเองเมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กหัวอกนางจึงรู้สึกร้อนรุ่มหวังว่าจะได้เห็นหน้าเขาสักครั้งเมื่อได้ยินว่าเขาอาจจะไม่มาร่วมงานชุมนุมใหญ่จอมยุทธ์นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแล้วกล่าวว่า“ผู้ที่มาร่วมงานชุมนุมจอมยุทธ์ใช่ว่าจะเป็นผู้กล้าทุกคนจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่จริงๆอาจจะไม่อยากไปร่วมงานด้วย”
เมื่อคิดได้ดังนั้นก๊วยเซียงจึงกล่าวว่า“แม้ว่าคืนนี้จะต้องเผชิญกับปีศาจมารร้ายข้าฯก็ยังอยากพบเห็นจอมยุทธ์เจ้าอินทรีสักครั้ง” ว่าแล้วก็กระทืบปลายเท้าทั้งคู่ขึ้นก้าวผ่านประตูใหญ่ออกไป