หลง เตี้ยนจวิ้น : สัตวแพทย์ผู้ซึ่งเป็นที่รักของชาวบ้าน
หลงเตี้ยนจวิ้นเป็นสัตวแพทย์ในตำบลหลงเมี่ยวเมืองฮาร์บินมณฑลเฮยหลงเจียงมาเกือบ30 ปีเขาทำหน้าที่ช่วยเหลือวัวในการผสมพันธุ์ทำคลอดตลอดจนวินิจฉัยและรักษาโรคทุกวันเขาจะขับรถมือสองบรรรทุกยารักษาสัตว์และอาหารสัตว์ตระเวนไปรอบๆหมู่บ้านในรัศมี20 กิโลเมตรตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาขับตระเวนมาแล้ว100,000 กิโลเมตร
เนื่องจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักและทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของเขาชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งผู้เฒ่าผู้แก่และคนหนุ่มสาวต่างก็เรียกหลงเตี้ยนจวิ้นว่า“หมอเทวดา” หลงเตี้ยนจวิ้นไม่กล้ารับฉายานามที่ว่านี้เพราะคิดว่าเขาเป็นเพียงสัตวแพทย์ที่ทำตามหน้าที่ของตนอยู่ในชนบทในมุมมองของหลงเตี้ยนจวิ้นการรักษาสัตว์ก็เหมือนเป็นการเยียวยารักษาตัวเขาเองไปด้วยเป็นการเติมเต็มแก่กันและกันจากสัตวแพทย์ธรรมดากลายเป็น“หมอเทวดา”
วัวถือเป็นสิ่งล้ำค่าในชนบทมันทำไร่ไถนาให้นมและออกลูกให้เราได้ใช้งานต่อไปหากวัวบ้านไหนป่วยทุกคนจะร้อนใจมากผมมักจะได้รับโทรศัพท์จากชาวนาที่โทรมาอย่างเร่งด่วนเมื่อผมรับสายก็ได้ยินเสียงร้องไห้ “คุณหมอหลงรีบมาดูเร็วๆนะครับ วัวของเราจะแย่แล้ว” ดังนั้นผมจึงต้องเปิดโทรศัพท์มือถือตลอด24 ชั่วโมงใครเรียกก็ไปทันทีไม่ว่าจะกี่โมงก็ตามและผมจะไม่ดื่มเหล้าเลยเพราะอาจจะทำให้เสียการเสียงานได้ซึ่งสองพฤติกรรมนี้ผมจะฝึกฝนเรื่อยมาจนเกิดเป็นความเคยชิน
ตอนแรกที่ผมเลือกเรียนวิชาชีพนี้เพราะคิดว่าสัตวแพทย์ในชนบทจะได้รับการนับหน้าถือตาจากชาวบ้านคิดได้เช่นนี้ผมจึงเรียนต่อวิชาเอกสัตวแพทยศาสตร์ในระดับอนุปริญญาพอเรียนจบก็กลับมาเป็นสัตวแพทย์ที่ชนบทตอนแรกผมเป็นเพียงสัตวแพทย์มือใหม่เลยไม่มีใครกล้าให้ผมรักษาวัวเลย
ก็ไม่แปลกเพราะตอนนั้นผมเพิ่งจบจากวิทยาลัยและรู้สึกว่าตัวเองเจ๋งมากมีความรู้ทางทฤษฎีมากมายแต่ไม่มีประสบการณ์ในทางปฏิบัติเลยผมยังจำตอนนั้นได้ตอนที่ผมเรียนจบใหม่ๆมีหมูของบ้านหนึ่งป่วยพอไปดูก็เห็นหมูขาสั่นทั้งสี่ขาจนลุกไม่ขึ้นในตำราสอนไว้ว่านี่คือโรคกระดูกพรุนจริงๆแล้วมันคือการขาดแคลเซียมในตำราบอกว่าหลังจากเสริมแคลเซียมเป็นเวลา7 วันหมูก็จะลุกขึ้นยืนได้
ผมบอกชาวบ้านแบบนี้และบอกว่าถ้าหมูไม่ลุกขึ้นหลังจากฉีดยาครบ7 วันผมก็จะไม่เก็บเงินจากเขาผลสุดท้ายหมูตัวนั้นต้องฉีดยานานถึง15 วันถึงจะลุกขึ้นยืนได้แต่เพราะคำพูดก่อนหน้านี้ผมจึงไม่กล้าเก็บเงินค่ารักษาผมเพิ่งเข้าใจว่าสิ่งที่กล่าวไว้ในตำราเรียนนั้นอาจจะไม่แน่นอนเสมอไปเราต้องวินิจฉัยและรักษาตามสถานการณ์เฉพาะนั้นด้วยวิชาชีพสัตวแพทย์ไม่ใช่หลักสูตรเร่งรัด
เงินที่คุณไม่สามารถเอ่ยปากขอได้
ลูกชายของผมพูดเสมอว่าถ้าเปิดคลินิกสัตว์เลี้ยงในเมืองใหญ่ก็คงรายได้ดีแต่ผมเป็นสัตวแพทย์ในชนบทนอกจากจะไม่ได้กำไรแล้วอาจจะต้องขาดทุนอยู่บ่อยๆด้วย
ก่อนอื่นสัตวแพทย์จะออกไปตรวจรักษาตามบ้านไม่ใช่นั่งอยู่ประจำที่ถ้าผมนั่งรอให้ชาวบ้านพาสัตว์มารักษาชาวบ้านจะลำบากมากเพราะถ้าวัวป่วยจะต้องพาวัวมาที่บ้านของผมค่าเดินทางไปกลับอย่างน้อยก็ร้อยสองร้อยหยวนและที่สำคัญส่วนใหญ่คนในชนบทจะเป็นผู้สูงอายุจึงไม่มีกำลังวังชาที่จะนำวัวป่วยมาที่บ้านของผมประการที่สองคือผมไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการออกไปตรวจวินิจฉัยต้องมีการรักษาหรือรักษาจนหายป่วยแล้วผมจึงจะเก็บค่ารักษา
ยกตัวอย่างเช่นชาวนาโทรมาตอนกลางดึกว่า“คุณหมอหลงแย่แล้ววัวบ้านเราออกลูกยากถ้าหมอไม่มาวัวต้องแย่แน่ๆ” ว่าแล้วผมก็รีบขับรถมาชั่วโมงกว่าพอถึงแล้วก็พบว่าแม่วัวออกลูกได้เองตามธรรมชาติเรียบร้อยแล้วในสถานการณ์เช่นนี้ผมไม่สามารถขอค่าออกตรวจได้ผมต้องจ่ายค่าน้ำมันในการเดินทางทั้งไปและกลับเมื่อคำนวณอย่างละเอียดแล้วจะมีค่าใช้จ่าย100,000 หยวนต่อปีในการเติมน้ำมันซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์
นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้วผมยังต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงบางอย่างด้วยเกษตรกรไม่ได้รับค่าจ้างอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนชาวนาปลูกข้าวก็ต้องรอเก็บเกี่ยวก่อนจึงจะมีเงินเกษตรกรที่เลี้ยงวัวก็ต้องขายวัวได้ก่อนจึงจะมีเงินเมื่อพวกเขามีเงินแล้วจึงสามารถจ่ายเงินคืนให้คุณได้หลายปีที่ผ่านมาค่ารักษาบางส่วนผมก็ไม่สามารถเอ่ยปากขอเรียกเก็บได้แต่แน่นอนว่าชาวบ้านส่วนใหญ่จ่ายเงินให้ผมตามปกติ
ภูมิใจที่มีชาวบ้านต้องการ
ผมมีชื่อเสียงเพราะวิดีโอสั้นที่ลูกชายผมถ่ายตอนนั้นเขาเพิ่งกลับมาที่บ้านเกิดหลังจากธุรกิจล้มเหลวตอนลูกยังเด็กผมงานยุ่งมากและไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับเขาเมื่อนึกย้อนไปตัวผมเองในฐานะพ่อก็จะเกิดความละอายใจบ้าง
ตอนนี้เขากลับมาที่บ้านแล้วเราสองคนไปออกตรวจด้วยกันผมตรวจโรคให้วัวส่วนเขาก็ถ่ายวิดีโอให้ผมหลังจากที่คลิปวิดีโอของผมเผยแพร่ออกไปชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปมากเดิมทีอย่างมากผมก็เป็นที่รู้จักในตำบลหลงเมี่ยวแต่ตอนนี้ผู้คนทั่วประเทศรู้ว่ามีสัตวแพทย์แซ่หลงคนหนึ่งในมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งความรู้สึกนี้มันดีมากวิดีโอช่วยให้คนทั่วไปได้เข้าใจว่าสัตวแพทย์ทำงานกันอย่างไรและที่สำคัญยิ่งกว่านั้นเมื่อดูคลิปของผมพวกเขาก็จะรู้ถึงชีวิตในชนบทเป็นอย่างไร
โดยเฉพาะในบ้านเกิดของเราความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านและชาวบ้านในอำเภอเดียวกันยังคงมีความใกล้ชิดกันช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันผมรู้สึกว่าผู้ชมจำนวนมากประทับใจกับเนื้อหาแบบนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้คาดคิดตอนนี้ผมรู้สึกว่าทุกคนชอบผมและพวกเขาก็ยังชื่นชอบชนบททางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนด้วยซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆ
ตอนนี้ในแต่ละวันผมก็จะได้รับโทรศัพท์ขอคำปรึกษามากกว่า20 ครั้งจากทั่วประเทศผมไม่สามารถไปตรวจโรคที่บ้านของพวกเขาได้ผมทำได้เพียงค่อยๆอธิบายให้พวกเขาฟังพวกเขาเชื่อถือผมผมจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง
ตอนนี้ในหมู่บ้านวัวต้องการผมและผู้คนก็ต้องการผมอันที่จริงผมก็ต้องการพวกเขาด้วยเหมือนกัน