เสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่

เมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนชาวจีนมีธรรมเนียมอยู่อย่างหนึ่งว่าจะต้องแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ในปี2567 เทรนด์เสื้อผ้าที่โด่งดังฮอตฮิตตั้งแต่เปิดศักราชคือเสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่ตัวอย่างเสื้อผ้าลักษณะนี้เช่นเสื้อคลุมหนังตกแต่งกระดุมจีนสวมทับกับเสื้อฮู้ดเสื้อคลุมผ้าแพรแบบราชวงศ์ซ่งสวมคู่กับกางเกงยีนส์เสื้อไหมพรมสวมคู่กับกระโปรงหน้าม้าแบบจีนโบราณ... สไตล์การออกแบบเสื้อผ้าด้วยการนำองค์ประกอบแบบจีนดั้งเดิมมามิกซ์แอนด์แมตช์กับแฟชั่นสมัยใหม่นับวันจะยิ่งได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภค

จากข้อมูลที่ได้รับมาในปี2566 เสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่นั้นมีมูลค่าการตลาดแตะระดับ1,000 ล้านหยวนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหตุใดผู้บริโภคในประเทศจีนจึงสนใจเสื้อผ้าลักษณะนี้เสื้อผ้าที่ว่าเป็นสไตล์จีน“รูปแบบใหม่” นั้นมีความแปลกใหม่ที่ไหนกันแน่

สไตล์หรือแนวคิดใดๆก็ตามล้วนเป็นผลผลิตแห่งยุคสมัยทั้งนั้นเสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่ก็เช่นเดียวกันหลายปีมานี้เมื่อชาวจีนให้ความสนใจศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมกันมากขึ้นเครื่องแต่งกายผสมกลิ่นอายจีนโบราณจึงได้รับความสนใจมากขึ้นไปด้วยแต่เพราะเมื่อก่อนเสื้อผ้าตามท้องตลาดส่วนใหญ่มักจะนำสไตล์ดั้งเดิมมาใช้อย่างทื่อๆจึงทำให้เกิดแนวคิดเสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่ที่นำเอาความโบราณมาผสมกับความทันสมัยอย่างชาญฉลาด

จึงไม่แปลกที่ชื่อเรียกของสไตล์แบบใหม่นี้จะมีคำว่า“ใหม่” แทรกอยู่

คำว่า“จีน” และคำว่า“ใหม่” นั้นเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมและวัฒนธรรมสมัยใหม่เป็นการหลอมรวมระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตกเราอาจมองว่ามันมีความหมายเชิงสัญลักษณ์มากกว่าจะมองว่าเป็นเพียงแนวคิดด้านการออกแบบที่สร้างสรรค์เท่านั้นคำว่า“จีน” เป็นตัวแทนของอารยธรรมดั้งเดิมที่สืบทอดมายาวนานหลายพันปีเสื้อผ้าสไตล์นี้เป็นการนำเครื่องแต่งกายโบราณมาเป็นพื้นฐานแห่งการออกแบบส่วนคำว่า“ใหม่” นั้นเป็นตัวแทนของนวัตกรรมเป็นนวัตกรรมการออกแบบเสื้อผ้าที่ยืนอยู่บนสิ่งดั้งเดิมพร้อมไปกับมุ่งหน้าสู่อนาคตโดยเน้นการสืบทอดวัฒนธรรม

เสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่นั้นแม้จะใช้เสื้อผ้าโบราณเป็นพื้นฐานแต่ก็มิได้จำกัดอยู่แค่ชุดกี่เพ้าหรือเสื้อกระดุมผ่ากลางอย่างที่ใช้กันมาแต่เดิมเท่านั้นยกตัวอย่างเช่นชุดกี่เพ้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเสื้อผ้าจีนมาแต่เดิมจะเป็นที่รู้กันว่าเน้นรูปร่างของผู้สวมใส่แต่เสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่จะให้ความสำคัญกับการใช้งานในชีวิตประจำวันเหล่าดีไซเนอร์จึงออกแบบเสื้อผ้าให้หลวมเพื่อจะได้สวมใส่สบายช่วงแขนและเอวที่แต่เดิมเน้นเข้ารูปก็จะเริ่มดีไซน์ออกมาให้เป็นทรงกระบอกมากขึ้น

อีกตัวอย่างหนึ่งคือกระดุมจีนที่มีต้นกำเนิดมาจากกี่-เพ้าเช่นเดียวกันเวลานี้กระดุมเชือกขดแบบนี้สามารถนำไปตกแต่งเสื้อผ้าแบบใดก็ได้ในสมัยโบราณกระดุมจีนจะติดเพียงเม็ดเดียวเท่านั้นแต่เดี๋ยวนี้ใครอยากจะประดับกระดุมกี่เม็ดก็ย่อมได้การเปิดกว้างในปัจจุบันส่งผลให้เสื้อผ้าแบบใหม่ที่ผสมผสานหลายสิ่งเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแบบจัดชุดเดรสเสื้อสูทบวกเชิ้ตเกิดขึ้นเป็นว่าเล่นและทำให้เสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันมากกว่าเมื่อก่อน

ถ้าเรามองว่า“ใหม่” นำมาซึ่งความสะดวกสบายและความสวยงามซึ่งเป็นคุณค่าด้านประโยชน์ใช้สอยถ้าเช่นนั้น“สไตล์จีน” ก็นำมาซึ่งคุณค่าเชิงวัฒนธรรมรวมไปถึงคุณค่าในการเข้าสังคมอันเกิดจากสไตล์ที่น่าสนใจ

จากงานวิจัยที่ประยุกต์ใช้โมเดลS-O-R ของหลิวฟางและหลี่หานเหว่ยนักวิชาการจากคณะการจัดการมหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีเซี่ยงไฮ้พบว่าเสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและคุณค่าทางการเข้าสังคมที่สามารถกระตุ้นให้เกิดความต้องการจับจ่ายในหมู่ผู้บริโภคเจเนอเรชั่นZ จริงๆ

เสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่นั้นมีนัยทางวัฒนธรรมและศิลปะอยู่ในตัวสามารถเชื้อเชิญให้เราเข้าไปทำความรู้จักกับวัฒนธรรมจีนโบราณส่วนคุณค่าทางการเข้าสังคมนั้นหลักๆคือมันสามารถเสริมสร้างตัวตนของผู้สวมใส่ได้

วัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บเสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหมแท้ผ้าเซียงอวิ๋นหรือผ้าแพรล้วนแต่มีลักษณะเรียบลื่นเป็นมันเงาทิ้งตัวได้ดีให้ความรู้สึกสง่างามนุ่มนวลยืดหยุ่นและคล่องตัวองค์ประกอบและวิธีตัดเย็บในเสื้อผ้าสไตล์นี้ไม่ว่าจะเป็นกระดุมจีนลายปักลายดอกไม้นกและต้นหญ้าล้วนสามารถสะท้อนให้เห็นถึงแง่มุมทางวัฒนธรรมที่ประณีตบรรจงและหนักแน่นตามที่ปรากฏในเสื้อผ้าจีนแบบดั้งเดิมเมื่อเราสวมใส่“วัฒนธรรม” เหล่านี้ลงบนร่างกายก็เปรียบได้ว่าเรากำลังสืบทอดวัฒนธรรมอันดีงามและสะท้อนตัวตนของเราออกมาอย่างน่าประทับใจ

เมื่อเสื้อผ้าสไตล์จีนรูปแบบใหม่พัฒนามาจากความนิยมในกลุ่มคนเล็กๆจนขยายออกสู่สาธารณชนในวงกว้างจึงไม่แปลกที่จะมีผู้เล่นเข้ามาลงสนามช่วงชิงฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นสำหรับประเด็นที่ว่าเสื้อผ้าแนวนี้จะยังฮิตไปได้อีกนานแค่ไหนศาสตราจารย์หลี่หนิงผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบพัสตราภรณ์แห่งคณะการออกแบบสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งชาติจีนในแง่หนึ่งการออกแบบเสื้อผ้าสไตล์นี้จะต้องผสานเข้ากับรูปแบบของเสื้อผ้าอย่างถึงแก่นในขณะเดียวกันก็ต้องเชื่อมโยงไปกับชีวิตประจำวันของผู้สวมใส่ด้วยแนวคิดในการออกแบบลักษณะนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตที่จะเข้ามาแบ่งเค้กในตลาดนี้มีช่องทางที่จะพัฒนาสินค้าของตนต่อไป