ลดช่องว่างระหว่างภายในกับภายนอกเกาะเซี่ยเหมิน -- เส้นทางสี จิ้นผิง
เดือนมกราคม ค.ศ. 2005 มีการยกระดับงานเจรจาการค้าการลงทุนอีกครั้งให้เป็นงานเจรจาการค้าการลงทุนนานาชาติแห่งประเทศจีน(China International Fair for Investment and Trade)หรือชื่อย่อ CIFIT ได้บรรลุเป้าหมายแห่งการสร้างเวทีใหญ่สำหรับการเจรจาการค้าการลงทุนระดับทวิภาคี พหุภาคี และฝ่ายที่สาม เป็นการเปิดประตูสู่ทุนระหว่างประเทศและขุมทรัพย์จากทั่วโลก และกำหนดทิศทางการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนชี้นำแนวโน้มใหม่ของการลงทุนระหว่างประเทศ ในเดือนมีนาคม งาน CIFIT ได้ผ่านการรับรองอย่างเป็นทางการจากสมาคมการแสดงสินค้าโลก (UFI) กลายเป็นงานนิทรรศการประเภทส่งเสริมการลงทุนที่ได้รับการรับรองจาก UFI เพียงแห่งเดียวในโลก ในปีเดียวกัน งาน CIFIT และงานนิทรรศการการค้าการลงทุนของการประชุมเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Meeting – ASEM)จัดขึ้นที่สถานที่เดียวกันในเวลาเดียวกัน โดยมี 125 ประเทศและภูมิภาคส่งตัวแทนเข้าร่วม
เดือนกันยายน ค.ศ. 2010 นายสี จิ้นผิง ซึ่งเป็นกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรองประธานาธิบดีจีนในขณะนั้น ได้เดินทางมายังเมืองเซี่ยเหมินอีกครั้งเพื่อร่วมงาน CIFIT ครั้งนี้ ท่านยก “กุญแจทอง 9.8”ซึ่งเป็นสัญลักษณ์งานขึ้นมาเพื่อเป็นประธานพิธีเปิดและตัดริบบิ้นให้กับงานครั้งนี้ ทั้งยังได้กล่าวปาฐกถาพิเศษที่ฟอรั่มการลงทุนโลกโดยระบุว่า จีนจะขยายความกว้างและความลึกของการเปิดประเทศ
ปี ค.ศ. 2018 เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน เลขาธิการใหญ่สี จิ้นผิงได้ส่งจดหมายแสดงความยินดีถึงพิธีเปิดงาน CIFIT ครั้งที่ 20 ว่า “หวังว่างาน CIFIT จะถือการส่งเสริมการลงทุนแบบสองทางเป็นธีม ดำเนินการอย่างเข้มข้นและรอบคอบ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงระดับสากล ระดับมืออาชีพ และระดับแบรนด์เนม จัดงาน CIFIT ให้เป็นเวทีสำคัญสำหรับการเปิดประเทศในระดับสูงรอบใหม่ และขยายบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการก่อตัวของโครงสร้างใหม่แห่งการเปิดกว้างในทุกด้านและการสร้างสรรค์เศรษฐกิจโลกที่เปิดกว้าง ”
ปี ค.ศ.2000 ประวัติศาสตร์ได้เข้าสู่ศตวรรษใหม่
เมืองเซี่ยเหมินได้ค่อยๆ ผงาดจากเมืองชายฝั่งเล็กๆ ในอดีต อย่างไรก็ตาม ในช่วงการพัฒนาอย่างรวดเร็วเซี่ยเหมินก็เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ช่องว่างการพัฒนาปรากฏอย่างเด่นชัดทั้งระหว่างภายในเกาะกับภายนอกเกาะและระหว่างเมืองกับชนบท ขนาดของผลิตภัณฑ์มวลรวมค่อนข้างเล็ก ศักยภาพในการพัฒนาที่ไม่เพียงพอ เป็นต้น
คำบรรยายภาพ : นี่คือพื้นที่บริเวณสะพานเหยียนอู่และเกาะกู่ลั่งอี่ว์ในเมืองเซี่ยเหมิน (ภาพโดยสำนักข่าวซินหัว เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2017)
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2001 ที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนเมืองเซียะเหมินชุดที่ 11 ครั้งที่ 4 ได้อนุมัติ“ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเมืองเซี่ยเหมินระยะ 5 ปีฉบับที่ 10” โดยเสนอให้พัฒนาจากเมืองที่มีในเกาะทะเลเป็นเมืองที่มีอ่าว และย้ายอุตสาหกรรมที่อยู่บนเกาะออกไป
เดือนพฤษภาคม นายจู หรงจี นายกรัฐมนตรีจีนในขณะนั้น ได้มาตรวจเยี่ยมเมืองเซี่ยเหมิน และเรียกร้องให้เซี่ยเหมิน“ยามคับขันต้องกล้าตัดสินใจให้เด็ดขาด กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเชิงทะลวงด่าน” เพื่อขยายการพัฒนาออกไปนอกเกาะ
“การลดช่องว่างระหว่างภายในกับภายนอกเกาะ” ได้กลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเร่งพัฒนาเซี่ยเหมิน
วันที่ 26 มิถุนายน ที่ประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมืองเซี่ยเหมินชุดที่ 9 ได้ตกลงให้มีการปรับยุทธศาสตร์การสร้างเมืองเซี่ยเหมิน และมีมติให้ดำเนินการเปลี่ยนจากเมืองที่มีเกาะในทะเลเป็นเมืองที่มีอ่าว
วันที่ 18 สิงหาคม นายสี จิ้นผิง ได้เดินทางมาเกาะเซี่ยเหมินอีกครั้งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อร่วมกิจกรรม“กลับบ้าน” สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนประจำมณฑล โดยเจาะลึกเขตปลอดภาษีเซี่ยงอี่ว์เมืองเซี่ยเหมินเพื่อรับรู้เกี่ยวกับการปฏิรูปและการพัฒนาเขตปลอดภาษี นอกจากนี้ยังได้ร่วมสัมมนากับสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนจำนวนหนึ่งทั้งระดับชาติ ระดับมณฑล และระดับเมืองที่อยู่ในเซี่ยเหมิน เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการทำให้เขตปลอดภาษีเป็นจุดเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ของเซี่ยเหมิน
นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า “ในฐานะ ‘หัวมังกร’ของมณฑลเรา เซี่ยเหมินต้องสร้างความรุ่งโรจน์อีกครั้งในศตวรรษใหม่ ต้องมีมุมมองระดับโลก ต้องมีแนวคิดใหม่ ๆ และต้องวางแผนการพัฒนาโดยมุ่งเน้นการสร้างเมืองที่ทันสมัยระดับนานาชาติ”
ปี ค.ศ.2001 เมืองเซี่ยเหมินมีผลิตภัณฑ์มวลรวมอยู่ที่ 55,639 ล้านหยวน เพิ่มจากปีก่อนหน้าร้อยละ 12 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยในปีเดียวกันของทั่วโลกร้อยละ 10 ของประเทศร้อยละ 4.7 และของมณฑลร้อยละ 3
แต่ร้อยละ 12 ไม่ใช่ความเร็วตามที่คาดหวังไว้ เพราะในบรรดา 15 เมืองระดับรองจากเมืองเอกของมณฑลในปีนั้น เซี่ยเหมินรั้งอันดับสุดท้ายของดัชนี้ชี้วัดหลายประการ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวม ยอดการลงทุนด้านสินทรัพย์ถาวร ยอดการค้าปลีก เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ในรายงานการวิเคราะห์สถานการณ์ในปีนั้นของสำนักงานสถิติเมืองเซี่ยเหมินจึงระบุไว้ว่า “การพัฒนาเศรษฐกิจของเซี่ยเหมินยังห่างไกลจากที่คิดไว้ในอุดมคติ มีความจำเป็นต้องเพิ่มความรวดเร็ว มีพื้นที่สำหรับการเพิ่มความเร็ว และก็มีเงื่อนไขสำหรับการเพิ่มความเร็วอีกระดับ”